5 ทุ่ม 45 นาที
อีก 15 นาที ก็จะได้ลงเวรแล้ว
...คิดว่าจะได้กลับไปนอนสบาย
คนไข้มาด้วย
ให้ประวัติว่า acute dyspnea 4 - 5 ชม PTA
RR ~ 40/min anxiousมาก
pt อยู่ในท่า นั่ง!!! หอบ พยาบาลบังคับให้นอนลง
แต่คนไข้ฝืนสุดแรง
no underlying disease!!!!
no smoking hx
ไม่เคย on medications อะไร
พยาบาลตะโกนมาบอกว่า "นี่หมอๆ asthma หน่ะ มาดูcase trauma ทางนี้ก่อน"
ดูหอบจริงมี marked subcostal retractionสุดๆ
ดูแล้ว respiratory failure น่าจะรีบใส่ tube
คนไข้ดู anxious เหมือนคนจมน้ำหรือขาดอากาศ
เดินเข้าไปฟังปอด ได้ยิน wheezing bilat ชัดมาก + medium-to-coarse crepitations
"ใส่ tube ครับพี่" ผมตะโกนให้พยาบาลทั้งER มาช่วยกันเตรียม
IV access, EKG monitor, O2 sat, โทรบอกICU, port CXR
ขณะช่วยกันจับให้คนไข้นอนเพื่อที่ผมจะได้ใส่ tube
คนไข้ก็ฝืนสุดแรงเพื่อจะนั่ง = sign นึงของภาวะcardiac asthma
>>> ขอตั้งชื่อsignว่า "T sign" พบได้ในภาวะ severe cardiac asthma :D
pathophysiology คงอธิบายได้เหมือนกับ PND หรือ orthopnea
เพราะถ้าเป็น atopic asthma เรื่องท่าทางที่ผู้ป่วยมาpresentนี่ไม่เกี่ยว
ขณะกำลังจะงัด... หายใจเฮือกสุดท้าย สุดท้ายจริงๆ
หยุดหายใจ pulse คล่ำไม่ได้ BP วัดไม่ได้
cardiac arrest
ผมก็เลยรีบใส่ tube
ใส่ง่ายมากๆ (จะไม่ง่ายได้ไงก็คนไข้ดูท่าทาง hypoxia, hypotonia มาก)
แต่พอเห็น pink frothy sputum ก็รู้เลยว่าเป็น cardiac asthma
พอซักประวัติกลับไปสองวัน pt เริ่มเหนื่อยแบบ DOE ไม่มี PND
จากhx ไม่มี leg edema
Pt มี cardiac asthma
sudden severe pulmonary congestion
ผลautopsy ptเป็น ventricular septal rupture
ส่วนอาการของวันแรกๆคงเป็น signs of ventricular failure, CHF
Vital signs change นี่ ไม่ว่า จะ pulse, BP หรือ โดยเฉพาะ RR
ทำให้pt ตายได้เร็วมาก และโดยเฉพาะในเด็กเล็กต้องระวังมากๆ
1 comment:
I love what you guys are up too. This kind of clever work and reporting!
Keep up the excellent works guys I've included you guys to my blogroll.
Look into my webpage :: hello world []
Post a Comment