Monday, May 19, 2008

Blood bank : HIV infection














some of these comments are 

unprofessional/unethical/misunderstood

ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าที่ เมืองไทยไม่ตรวจ NAT test

ทำไม blood bankทั้งหมด ในเมืองไทยไม่มีการตรวจ NAT test?

(blood banks หลายที่ก็มีการตรวจ NATแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่ยังไม่มี)

ก็เพราะเรื่อง clinical cost-effectiveness ไม่คุ้มเหรอ?

 

health economics ดูแล้วไม่คุ้มเหรอ?

หรือว่ามีหลักฐานว่า​​NAT test ไม่สามารถช่วยลดระยะ window periodได้?

ก็รู้ว่าNAT testช่วยลดwindow periodลงเหลือแค่11-12วัน

ก็รู้ว่าNAT testไม่ได้ทำให้window periodลดลงจนเหลือ0วัน

แต่มันก็เป็น HIGHER standard of medical practice ใช่มั๊ย

ก็น่าจะตรวจ NAT test นะครับ

ที่America

1. careful donor selection --> ทำได้ทุกที่แต่คนไทยไม่ค่อยมีจิตสำนึกไม่ให้ความร่วมมือ

2. ELISA test for HIV-1 and HIV-2

3. NAT test

ขั้นตอนที่สำคัญกว่า NAT test ก็คือ careful donor selection แต่มันยากสุด

เพราะเราจะบังคับให้ทุกคนมีจิตสำนึกคิดว่า "ถ้าตัวเองสำส่อนหรือมั่ว ก็ไม่ควรมาบริจาค"นั้นยาก

ทั้งๆที่USAทำทั้ง 3 ขั้นตอนแล้วก็ลดการติดHIV จากการรับเลือดลงมาเหลือ 1 : 2,500,000

ทำไม รายการทีีีวีหัวมังคุด ไม่เอาประเด็น NAT test มาคุยจะได้เกิดความกระจ่างว่าเพราะอะไรถึงไม่มีNAT test สำหรับ blood bankทุกที่ในไทย

เอาเกย์มาทะเลาะกันในรายการทำให้รายการขายได้

ทำไม ไม่คุยกันเรื่องการสร้างจิตสำนึกว่าถ้ารู้ตัวว่า"สำส่อนหรือมั่ว"ก็ไม่ควรมาบริจาค?

แต่กลับไปคุยกันว่าเกย์บริจาคเลือดได้มั๊ย?


เกย์หรือไม่เกย์มันไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญเท่าประเด็นเรื่อง "ถ้ารู้ตัวว่าสำส่อนหรือมั่ว ก็ไม่ควรมาบริจาค"

ต้องกันพวกที่อยากมาตรวจAIDS โดยการใช้สภากาชาดเป็นเครื่องมือ(มีทั้งเกย์และไม่เกย์เพียบ)

เพราะพวกนี้มีความเสี่ยงอยู่แล้วเลยอยากมาตรวจAIDS

ถ้าบังเอิญเพิ่งได้เชื้อมาในช่วงwindows period คนไข้ที่ได้เลือดไปจะได้รับเชื้อ HIV ไปด้วย

ควรมุ่งไปที่การสร้างจิตสำนึก/หิริโอตัปปะ ว่า"ถ้ารู้ตัวว่าสำส่อนหรือมั่ว ก็ไม่ควรมาบริจาค" เพราะอาจกลายเป็นการทำบาปแทนที่จะมาทำบุญ

ส่วน NAT test ก็สำคัญรองลงมาจากการสร้างจิตสำนึก

No comments: